เมนู

พราหมณ์ทั้งหมดนั้น จักยังฤทธิ์ให้สำเร็จได้บริบูรณ์ ก็เพราะเจริญ กระทำ
ให้มากซึ่งอิทธิบาท 4 เหล่านี้แล.
จบสัมมัตตสูตรที่ 6

อรรถกถาสัมมัตตสูตร



สัมมัตตสูตรที่ 6.

คำว่า สมตฺตํ อิทฺธึ คือ อรหัตผลนั่นเอง.
ก็แหละใน 9 สูตรตั้งแต่ต้นมา พระองค์ได้ตรัสแต่อิทธิบาทที่มีวิวัฏฏะเป็นบาท
เท่านั้น.
จบอรรถกถาสัมมัตตสูตรที่ 6

7. ภิกขุสูตร*



ได้เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติเพราะเจริญอิทธิบาท



[1116] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในอดีตกาล
กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้ง
หลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ภิกษุทั้งหมดนั้น
กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้ง
หลายสิ้นไปด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เพราะเจริญ กระทำ
ให้มากซึ่งอิทธิบาท 4 ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในอนาคตกาล จักทำให้แจ้งซึ่ง
* สูตรที่ 7-8-9 ไม่มีอรรถกถาแก้.

เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ภิกษุทั้งหมดนั้น กระทำให้แจ้งซึ่ง
เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปด้วย
ปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ เพราะเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท
4 เหล่านี้แล ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบัน กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ
ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอัน
ยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ ภิกษุทั้งหมดนั้น กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ
ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอัน
ยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ เพราะเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท 4
อิทธิบาท 4 เป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญ
อิทธิบาทประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขาร ย่อมเจริญอิทธิบาทประกอบ
ด้วยวิริยสมาธิ . . . จิตตสมาธิ. . . วิมังสาสมาธิและปธานสังขาร.
[1117] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ในอดีตกาล
กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะ
อาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่
ภิกษุทั้งหมดนั้น กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะ
มิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปด้วยปัญญาอันรู้ยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้า
ถึงอยู่ เพราะเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท 4 เหล่านี้แล ภิกษุเหล่าใด
เหล่าหนึ่ง ในอนาคตกาล จักทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ ภิกษุทั้งหมดนั้น กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อัน

หาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ เพราะเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท 4 เหล่านี้แล ภิกษุเหล่า
ใดเหล่าหนึ่ง ในปัจจุบัน กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ ภิกษุทั้งหมดนั้น กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อัน
หาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบัน
เข้าถึงอยู่ เพราะเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท 4 เหล่านี้แล.
จบภิกขุสูตรที่ 7

8. พุทธสูตร



เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธะเพราะเจริญอิทธิบาท



[1118] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อิทธิบาท 4 เหล่านี้ อิทธิบาท 4
เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญอิทธิบาทประกอบด้วยฉันทสมาธิและ
ปธานสังขาร ย่อมเจริญอิทธิบาทประกอบด้วยวิริยสมาธิ . . . จิตตสมาธิ . .
วิมังสาสมาธิและปธานสังขาร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อิทธิบาท 4 เหล่านี้แล
เพราะได้เจริญ ได้กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท 4 เหล่านี้แล เขาจึงเรียกตถาคต
ว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า.
จบพุทธสูตรที่ 8